ล้อเก็บสายไฟ
อุปกรณ์ส่วนใหญ่ที่ไม่ว่าจะเป็นภายในบ้านหรือนอกบ้านล้วนแล้วแต่จะต้องใช้ไฟฟ้าทั้งสิ้น อย่างเช่นในบ้านก็จะมีอุปกรณ์ไฟฟ้าที่จำเป็นต้องใช้ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ททีวี, โน๊ตบุ๊ค, คอมพิวเตอร์, พัดลม, เครื่องดูดฝุ่น หรือ ตู้เย็น ส่วนนอกบ้านก็จะมีอุปกรณ์ทำสวนอย่างเครื่องตัดหญ้า เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง หรือเครื่องมือช่างต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น สว่านไร้สาย หรือ สว่านไฟฟ้า แต่ปัญหาที่มักเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งคือสายไฟของอุปกรณ์มีความสั้นจนเกินไป หรือเต้าปลั๊กค่อนข้างจะห่างจากพื้นที่ที่เราจะต้องใช้งาน อีกทั้งหากสายไฟที่มีความตึงมากจนเกินไป มันก็อาจจะทำให้เกิดการสะดุดได้
แต่ใช่ว่าปัญหาเหล่านี้จะแก้ไม่ได้ครับ เพราะจริง ๆ แล้วคุณสามารถปลั๊กพ่วงได้แต่อาจจะมีความยุ่งยากในการใช้งานอยู่บ้าง หรืออีกอย่างหนึ่งที่เหมาะสมและใช้งานได้ดีมาก ๆ เลยคือ “ล้อเก็บสายไฟ“ ที่มีความยาวหลายสิบเมตร ทำให้คุณสามารถใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าได้สะดวกมากขึ้น โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องไปกังวลว่าความยาวของสายจะสั้นจนเกินไป นอกจากนี้ในเรื่องของความปลอดภัยก็ถือว่าดีมากเลยทีเดียว เพราะล้อเก็บสายไฟจะปลอดพลังงานออกมาได้อย่างเหมาะสม สามารถป้องกันการลัดวงจรหรือไฟฟ้ารั่วได้เป็นอย่างดี ฉะนั้นหากใครที่มีปัญหาสายไฟที่สั้นจนเกินไป ผมบอกได้เลยว่าล้อเก็บสายไฟช่วยคุณได้ ทั้งยังเก็บสายไฟได้อย่างสะดวกอีกด้วย
คุณสามารถเลือกซื้อล้อเก็บสายไฟโดยพิจารณาจากสิ่งต่อไปนี้
ความยาวของสายไฟจะมีให้เลือกกันอยู่ในหลากหลายขนาดครับ ซึ่งปกติมันจะให้ซื้อตั้งแต่ 10 เมตรขึ้นไป โดยการเลือกก็อยู่ที่ความต้องการของคุณ ว่าความยาวขนาดไหนเหมาะสำหรับการใช้งานภายในบ้านหรือสถานที่ของคุณมากที่สุด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยิ่งความยาวของสายไฟมากเท่าไหร่ นั่นหมายความว่ามันสามารถใช้งานได้หลากหลายมากยิ่งขึ้นเท่านั้นครับ
จำนวนช่องเต้ารับก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่จะต้องพิจารณาเลือกดูเหมือนกัน ทั้งนี้การเลือกก็จะต้องดูว่าอุปกรณ์ที่คุณต้องการจะต่อเข้ากับเต้ารับของล้อเก็บสายไฟนั้นมีมากน้อยขนาดไหน หากเป็นการใช้นอกอาคารที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์เพียงชิ้นเดียวหรือสองชิ้น เต้ารับ 2 ช่องก็เพียงพอแล้วครับ แต่สำหรับคนที่ต้องการใช้ภายในบ้านเพื่อใช้สำหรับต่อเข้าอุปกรณ์หลายตัว ผมอยากจะแนะนำให้เลือกตั้งแต่ 3 ช่องขึ้นไปครับ
อะไรที่เกี่ยวกับไฟฟ้าทุกอย่างมันมีความเสี่ยงอยู่เสมอครับ ดังนั้นทางที่ดีล้อเก็บสายไฟควรจะมีระบบความปลอดภัยให้กับเรา อย่างเช่น ระบบตัดไฟที่มากเกินไปด้วยมินิเบรกเกอร์ เพื่อป้องกันไม่ให้มันปล่อยพลังงานไฟฟ้าจนเกิดการลัดวงจร
สาเหตุที่จะต้องเช็กพลังงานไฟฟ้าก็เพราะเราจะได้รู้ว่ามันสามารถปล่อยไฟฟ้าได้เพียงพอต่ออุปกรณ์ที่เราจะต่อ ยิ่งโดยเฉพาะใครที่ต้องการจะใช้งานกับเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ ซึ่งต้องการใช้ไฟฟ้าเยอะ ๆ ยิ่งจะต้องเช็กรายละเอียดส่วนนี้ให้ดีเลยครับ
อย่างน้อยเพื่อเป็นการรับประกันให้กับเราได้ว่าสินค้าที่มาตรฐานและความปลอดภัยที่ดี ผมแนะนำให้เลือกอุปกรณ์ที่ผ่านมาตรฐานจากองค์กรที่น่าเชื่อถือ อย่างเช่น มอก. หรือ IEC เป็นต้น
***ขอบคุณข้อมูลจาก bestreview.asia***